บันทึกอนุทิน ครั้งที่2
วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
วันพุธ ที่ 21 เดือน มกราคม พ.ศ. 2558
ความรู้ที่ได้รับ
กิจกรรมก่อนเรียน
ร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย ที่สามารถช่วยในการสอนกิจวัตรประจำวันของเด็กได้
ผู้แต่ง อ.ศรีนวล รัตนสุวรรณ
เรียบเรียง อ. ตฤณ แจ่มถิน
อาบน้ำซู่ซ่า ล้างหน้าล้างตา
ฟอกสบู่ถูตัว ชำระเหงื่อไคล
ราดน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดตัว
อย่าให้ขุ่นมัว สุขกายสบายใจ
ตื่นเช้าเราแรงฟัน กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน
ก่อนนอนเราแปรงฟัน ฟันสะอาดขาวเป็นเงางาม
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง
บ้านของฉันอยู่ด้วยกันมากหลาย
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุง ป้า ตายาย
มีทั้งน้า อา พี่และน้องมากมาย
ทุกคนสุขสบาย เราเป็นพี่น้องกัน
เรามาโรงเรียน เราเขียนเราอ่าน
ครูเล่านิทานสนุกถูกใจ
เราเขียนเราเล่น เราเป็นสุขใจ
ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน
การร้องเพลงเป็นเคล็ดลับหนึ่งในการสอนเด็กเรื่องการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น เพลงแปรงฟัน มีเด็กออทิศติกไม่ยอมแปรงฟัน เพราะจะกลับแปรงสีฟันมาก แล้วเมื่อเห็นเพื่อนร้องเพลงพร้อมๆกับแปรงสันตามจังหวะเพลง ต่อมาพอเดือนกว่าๆเด็กออทิสติกก็ยอมจับแปรงสีฟัน พอหลังจากนั้น 1อาทิตย์ เขาก็ยอมแปรงฟัน
รูปแบบการจัดการศึกษา
การศึกษาปกติทั่วไป (Regular ) เป็นการศึกษารูปแบบเดียวในสมัยก่อน ประมาณ 20-30ปีที่แล้ว เพื่อให้เด็กทั่วไปเรียน ส่วนเด็กพิเศษจะอยู่แบบซุกซ่อน พ่อแม่ให้ซ่อยอยู่แต่ในบ้านไม่ให้ออกไปไหน เพราะอับอาย พอสังคมเห็นความสำคัญของเด็กพิเศษจึงเกิดการศึกษาพิเศษขึ้นมา
การศึกษาพิเศษ (Special Education) ได้นำแนวคิดมาจากต่างประเทศ เมื่อ 20กว่าปี เพื่อให้เฉพาะเด็กพิเศษได้เรียนเท่านั้น
จะเห็นได้ว่าสมัยก่อนการศึกษาจะมีการแยกกันชัดเจน ต่างคนต่างเรียน ทำให้เด็กอยู่แต่สังคมของตัวเอง ทำให้เด็กใช้ชีวิตในสังคมไม่ค่อยดี ทำให้เกิดการศึกษาแบบเรียนร่วม
การศึกษาแบบเรียนร่วมกับการศึกษาแบบเรียนรวมจะมีความคล้ายๆกัน
การศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education) ศูนย์EI เป็นผู้ควบคุมดูแลจะประสานงานกับทางโรงเรียน แล้วจัดให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป หลักสูตรไม่เปลี่ยน แต่มีการเขียนแผน IEP การดูแลเด็กจะมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันออกไป โดยมีกิจกรรมให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน ในช่วงเวลาใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน การเรียนร่วมมี 2รูปแบบ
1- การเรียนร่วมบางเวลา (Integration) เป็นการจัดให้เด็กพิเศษเรียนโรงเรียนปกติในบางเวลา เพราะเป็นเด็กพิเศษที่มีอาการระดับปานกลางถึงระดับมาก สามารถทำได้ในบางกิจกรรมเท่านั้น กิจกรรมที่ใช้กับเด็กพิเศษมากที่สุดคือ กิจกรรมดนตรี การเคลื่อนไหว เพราะดนตรีสามารถช่วยบำบัดอาการของเด็กพิเศษได้ดี และรองลงมา คือ กิจกรรมศิลปะ
2- การเรียนร่วมเต็มเวลา (Mainstreaming) จัดให้เด็กที่มีอาการระดับน้อยเรียนในโรงเรียนปกติตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน ต้องให้เด็กพิเศษและเด็กปกติได้มีกิจกรรมร่วมกันและได้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมร่วมกัน ทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
การศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education) เป็นความรับผิดชอบหลักของทางโรงเรียนจัดการศึกษาสำหรับทุกคนรับเด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา เด็กพิเศษจะมีสถานะเหมือนกับเด็กปกติทุกอย่าง โรงเรียนไม่สามารถเลือกเด็กได้ แต่เด็กและผู้ปกครองสามารถเลือกโรงเรียนได้ เช่น โรงเรียนสามเสน โรงเรียนเกษมพิทยา
Wilson,2007
การสอนที่ดี เป็นการสอนที่ครูกับนักเรียนช่วยกันให้ทุกคนเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน คือสอนให้เด็กพิเศษได้ช่วยเหลือตนเองและใช้ชีวิตในสังคมได้ สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนในห้องได้ และเพื่อนก็สามารถปรับตัวและช่วยเหลือเด็กพิเศษได้
กิจกรรมทุกชนิดที่นำไปสู่การสอนที่ดี ต้องคิดอย่างรอบคอบเพื่อหาหนทางให้นักเรียนทุกคนสามารถเรียนได้ กิจกรรมต้องไม่ยากจนเด็กพิเศษทำไม่ได้และไม่ง่ายจนเด็กปกติไม่อยากทำ
ความหมายที่ใช้โดยทั่วโลก จึงเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ทุกคนทุกประเทศได้เข้าใจตรงกัน
"Inclusive Education is Education for all, It involves receiving people at the beginning of their education services needed by each individual"
"การศึกษษแบบเรียนรวมรวมถึงทุกคนต้องเรียนตั้งแต่ขั้นต้นตั้งแต่วัยอนุบาล เด็กแต่ละคนจะแตกต่างกัน ครูจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้เหมาะกับเด็กแต่ละบุคคล"
สรุปความหมายของการศึกษษแบบเรียนรวม
เป็นการจัดการศึกษาที่จัดขึ้นให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติตามความต้องการของแต่ละบุคคล เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาส เกิดจากปรัชญาการศึกษาที่กล่าวไว้ว่า "การศึกษาสำหรับทุกคน (Education for All)" เด็กเลือกโรงเรียนไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก
ทุกคนยอมรับว่ามีผู้พิการ อยู่ในสังคมและเขาเหล่านั้นต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติ โดยไม่มีการแบ่งแยก โดยเฉพาะเด็กดาวน์ซินโดรมจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเห็นได้ชัด ครูจำเป็นต้องบอกเด็กคนอื่นๆก่อนเพื่อให้เด็กปกติเข้าใจ เพราะถ้าเด็กสงาสัยเด็กก็จะกลับไปถามผู้ปกครอง แล้วกลับมาเล่าให้เพื่อนให้ฟัง จึงทำให้เกิดการล้อเลียนได้ ทำให้เด็กรู้สึกและไม่อยากที่จะมาเรียนได้
ความสำคัญของการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย
การนำความรู้ไปใช้
นำเทคนิคการร้องเพลงต่างๆไปสอนเด็กในเรื่องของกิจวัตรประจำวัน เช่น บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องไปบอกเด็กว่า "เด็กค่ะไปอาบน้ำค่ะ" แต่เราสามารถร้องเพลงได้ เมื่อเด็กได้ยินเพลงเด็กก็เข้าใจทันที ดังกรณีที่อาจารย์ยกตัวอย่างเด็กดาวน์ซินโดรม
ประเมินตนเอง
พยายามตั้งใจและจดสิ่งที่อาจารย์อธิบาย หลังจากได้ทำแบบทดสอบหลังเรียนกลับพบว่ายังทำไม่ค่อยได้ คาบหน้าควรที่จะปรับปรุงและต้องศึกษาเนื้อหาก่อนเข้าเรียน เพื่อที่จะได้เข้าใจมากขึ้น
ประเมินเพื่อน
วันนี้เรียนรวมกับเพื่อนกลุ่มอื่น รู้สึกอบอุ่มมาก ปกติจะเดินสวนกันก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้เรียนด้วยกัน แต่วันนี้ได้มีโอกาสคุยกัน ปรึกษากัน เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียนและพยายามให้ความร่วมมือในการร้องเพลงและตอบคำถาม
อาจารย์สอนสนุกเหมือนเดิม มีเทคนิควิธีการสอนที่ทำให้นักศึกษาเข้าใจง่ายไม่เครียด บรรยากาศในห้องสนุกไม่กดดันสนุกไปกับการเรียน ชอบวิธีการทำแบบประเมินหลังเรียนมาก เพื่อจะได้เช็คว่าเรามีความเข้าใจในเนื้อหามากน้อยเพียงใดและต้องปรับปรุงแก้ไขในส่วนไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น