วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 15




บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 15

วิชา การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

วันพุธ ที่ 15  เดือน เมษายน  พ.ศ. 2558




ความรู้ที่ได้รับ


โปรแกรมการศึกษาเฉพาะบุคคล  (Individualized Education Program)

แผน IEP

            ไม่เหมือนการเขียนแผนการสอนปกติ เราไม่ได้เขียนคนเดียว ไม่ใช้เอง เขียนเองแต่ต้องผ่านคณะกรรมการ หลายตรา หลายความคิดเห็น

              IEP ต่างจากแผนปกติ คือ ต้องรู้จักเด็กให้ลึกซึ้งก่อน รู้จุดเด่น จุดด้อย ด้านที่เด็กชอบ และด้านที่เด็กไม่ชอบ รู้ภูมิหลังของเด็กว่าใครเป็นคนพาเด็กไปหาหมอ ต้องสังเกตเด็กก่อนอย่างน้อย 1เทอมและห้ามลืมจดบันทึก เพื่อที่เราจะได้เห็นบริบทต่างๆของเด็ก

             เป็นแผนการศึกษาที่ร่างขึ้น เพื่อให้เด็กพิเศษแต่ละคนได้รับการสอน และการฟื้นฟูให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเขา  ด้วยการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็ก โดยระบุเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการใช้แผน และวิธีการวัดประเมินผลของเด็ก (ต้องระบุเวลาที่ชัดเจน)




การเขียนแผน IEP

              คัดแยกเด็กพิเศษ ครูต้องรู้ว่าเด็กมีปัญหาอะไร แล้วประเมินพัฒนาการเด็กเป็นระยะ จะทำให้ทราบว่าจะต้องเริ่มช่วยเหลือเด็กจากจุดไหน ในทักษะใด เด็กสามารถทำอะไรได้ เด็กไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วจึงเริ่มเขียนแผน IEP




IEP ประกอบด้วย

               ข้อมูลส่วนตัวของเด็ก ต้องระบุว่าเด็กมีความจำเป็นต้องได้รับบริการพิเศษอะไรบ้าง ระบุความสามารถของเด็กในปัจจุบัน ระบุวันเดือนปีที่เริ่มทำการสอนและคาดคะเนการสิ้นสุดของแผน วิธีการประเมิน และสิ่งที่สำคัญคือต้องกำหนดเป้าหมายระยะยาวประจำปี/ระยะสั้น (เป็นหน้าที่ที่ครูจะต้องเขียน และยากที่สุด)




ประโยชน์ต่อเด็ก

                เด็กได้เรียนรู้ตามความสามารถของตน ได้มีโอกาสพัฒนาตามศักยภาพของตน และได้รับการศึกษาและฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม ถ้าเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนจะไม่ถูกจัดเข้าชั้นเรียนเฉยๆ




ประโยชน์ต่อครู
  •  เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนที่ตรงกับความสามารถและความต้องการของเด็ก
  •  เป็นแนวทางในการเลือกสื่อการสอนและวิธีการสอนให้เหมาะกับเด็ก
  •  ปรับเปลี่ยนได้เมื่อความต้องการเปลี่ยนแปลงไป
  •  เป็นแนวทางในการประเมินผลการเรียนและการเขียนรายงานพัฒนาการความก้าวหน้าของเด็ก
  •  ตรวจสอบและประเมินได้เป็นระยะ
ประโยชน์ต่อผู้ปกครอง
  • ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนการเรียนรายบุคคล เพื่อให้เด็กได้พัฒนาความสามารถได้สูงสุดตามศักยภาพ
  • ทราบร่วมกับครูว่าจะฝึกลูกของตนอย่างไร
  • เกิดความร่วมมือในการพัฒนาเด็ก มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างต่อเนื่อง และใกล้ชิดกันระหว่างบ้านกับโรงเรียน


ขั้นตอนการจัดทำแผนการศึกษารายบุคคล

1. การรวบรวมข้อมูล
  • รายงานทางการแพทย์ สอบถามทางโรงพยาบาลว่าเข้า-ออก บ่อยแค่ไหน
  • รายงานประเมินด้านต่างๆ
  • บันทึกจากผู้ปกครอง ครู และผู้ที่เกี่ยวข้อง  เอาข้อมูลจากที่เราบันทึกทั้งเทอม ถ้าเราไม่รู้จักเด็กจริง เราจะเขียนไม่ได้
2.การจัดทำแผน
  • ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ครูประจำชั้น พ่อแม่/ผู้ปกครอง แพทย์ ครูสอนเสริม  หลักๆมี 3คน คือ ครู พ่อแม่/ผู้ปกครอง และผู้บริหาร
  • กำหนดเป้าหมายระยะยาว/ระยะสั้น
  • กำหนดโปรแกรมและกิจกรรม
  • จะต้องได้รับการรับรองแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดจุดหมาย
  • ระยะยาว
  • ระยะสั้น
จุดหมายระยะยาว

           ตั้งไม่ยาก เป็นการกำหนดให้ชัดเจนว่าเด็กจะได้อะไร ขอบข่ายทุกอย่างที่เด็กสามารถทำได้  
ไม่เจาะจงว่าเรืองอะไร กำหนดให้กว้างๆ เช่น น้องนุ่นช่วยเหลือตนเองได้  น้องดาวร่วมมือกับผู้อื่น
น้องริวเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆได้

จุดมุ่งหมายระยะสั้น

            ต้องตั้งภายใต้จุดประสงค์ที่ตั้งไว้ เป็นพฤติกรรมที่เด็กสามารถทำได้ในระยะ 2-3วัน หรือ 2-3สัปดาห์ จุดประสงค์จดเป็นพฤติกรรมหลัก โดยเด็กสามารถปรับเปลี่ยนได้ต้องเห็นผลประมาณ 1เดือน 
ต้องเห็นผล โดยต้องเขียนให้ครอบคลุมทั้ง 4ข้อดังนี้ คือ
                    1. จะสอนอะไร
                    2. พฤติกรรมอะไร
                    3. เมื่อไหร่ ที่ไหน (ที่พฤติกรรมนั้นจะเกิด)
                    4. พฤติกรรมนั้นต้องดีขนาดไหน

Ex.      ใคร                           อรุณ
            อะไร                        กระโดดขาเดียว
            เมื่อไหร่/ที่ไหน        กิจกรรมกลางแจ้ง
            ดีขนาดไหน             กระโดดขาละ 5ครั้ง ในเวลา 30วินาที 
     
 Ex.     ใคร                           ธรภรณ์
            อะไร                        นั่งเงียบๆโดยไม่พูดคุย
            เมื่อไหร่/ที่ไหน         ระหว่างครูเล่านิทาน
            ดีขนาดไหน              ช่วงเวลาการเล่านิทาน 10-15นาที เป็นเวลา 5วันติดต่อกัน

 3. การใช้แผน

          เมื่อแผนเสร็จสมบูรณ์ ครูจะนำไปใช้โดยจะใช้แผนระยะสั้น แล้วนำมาทำเป็นจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม โดยแยกย่อยขั้นตอนการสอนให้เหมาะกับเด็ก แล้วจัดเตรียมสื่อและจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ต้องมีการสังเกตเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและความสามารถ โดยคำนึงถึง
  1. ขั้นตอนพัฒนาการของเด็กปกติ
  2. ตัวชี้วัดพื้นฐานที่เกี่ยวกับปัญหาของพัฒนาการเด็ก
  3. อิทธิพลของสิ่งแวดล้อมของเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผลต่อการแสดงออกของเด็ก
4. การประเมินผล
  • โดยทั่วไปจะประเมินภาคเรียนละครั้ง หรือย่อยกว่านั้น
  • ควรมีการกำหนดวิธีการประเมิน และเกณฑ์การวัดผล
การประเมินในแต่ละทักษะหรือแต่ละกิจกรรม อาจใช้วิธีวัดและกำหนดเกณฑ์แตกต่างกัน


ประเมินตนเอง

          แต่งตัวเรียบร้อย มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายเนื้อหาและวิธีการเขียนแผน IEP ต้องกลับไปอ่านและทำความเข้าใจในเนื้อหา เพื่อจะได้เขียนแผน IEP ทำจะต้องส่งอาจารย์ได้อย่างถูกต้อง



ประเมินเพื่อน

          เพื่อนๆตั้งใจเรียน และให้ความร่วมมือในการทดลองเขียนแผน ช่วยกันคิดแลกเปลี่ยนความคิดกัน 



ประเมินอาจารย์

          อาจารย์สอนเข้าใจ มีการยกตัวอย่างอยู่เสมอ ชอบเทคนิคการสอนของอาจารย์มาก บรรยากาศในห้องอบอุ่น เป็นกันเอง อาจารย์รู้ว่าสิ่งไหนที่นักศึกษาชอบ รู้ว่าสิ่งไหนที่นักศึกษาไม่ชอบ อาจารย์จะนำเกมมาเล่นก่อนการเรียนเสมอ เพื่อเป็นการเร้าความสนใจของนักศึกษา ทำให้นักศึกษามีความสุขในการเรียนมากยิ่งขึ้น








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น